วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

สาระน่ารู้ เรื่อง กล้วย กล้วย

          
         สาระน่ารู้ เรื่อง กล้วย กล้วย
                                                                      
กล้วยเป็นพืชที่นิยมปลูกกันทั่วไปตามบ้านเรือน ควบคู่กับวิถีชีวิตของ คนไทยมาเป็นเวลาช้านาน เพราะนอกจากจะนำผลมาใช้เป็นอาหารแล้ว ส่วน อื่นๆ ของลำต้นยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เช่น ใบใช้ห่อของ ปลี ใช้เป็นอาหาร ลำต้นใช้เป็นอาหารสัตว์ ใช้ทำเชือกประดิษฐ์หัตถกรรม และใช้ ทำเป็นกระทงที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมในวันลอยกระทงอีกด้วย กล้วยมีชื่อ ทางวิทยาศาสตร์ว่า Musa sapientum Linn. อยู่ในวงศ์ Musaceae เป็นไม้ ล้มลุก มีลำต้นใต้ดิน อายุหลายปี ลำต้นบนดินรูปทรงกระบอก เกิดจากกาบ หุ้มซ้อนกันสูง 2-4 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับซ้อนกันรอบต้นที่ปลาย ยอด เป็นรูปขอบขนาน กว้าง 2.5-4.5 เมตร ยาว 1-2 เมตร ก้านใบค่อนข้าง กลมหนา ด้านบนเป็นร่องลึก ผิวใบเรียบมัน ท้องใบมีสีอ่อนกว่า มีนวล ดอก ออกเป็นช่อในลักษณะห้อยหัวลง ยาว 30-60 ซม. เรียกว่า ปลี ออกที่ปลาย ยอด มีใบประดับหุ้มช่อ ดอกสีแดงหรือสีม่วง ขนาดใหญ่ เรียกว่า กาบ ดอกย่อย ออกเรียงกันเป็นแผง มีกาบหุ้มรองรับอยู่ โดยดอกที่อยู่ส่วนปลายช่อ เป็นดอก ตัวผู้ ดอกที่โคนช่อเป็นดอกตัวเมีย ผลจึงออกเป็นช่อ เรียกว่า เครือ แต่ละช่อย่อย เรียกว่า หวี กล้วยหวีหนึ่งมีประมาณ 10 ผล เป็นผลสดกลมยาว ขนาด รูปร่าง และรสขึ้นอยู่กับพันธุ์ เนื้อกล้วยมีสีเหลืองครีม เมื่อสุกมีรสหวานรับประทาน ได้ มักไม่มีเมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อหรือแยกเหง้า ไม่ชอบดินที่มีน้ำ ขัง จะอยู่ในดินร่วนซุยและดินเหนียวที่อุ้มน้ำได้ดี ในตำรายาไทยกล่าวถึง สรรพคุณของกล้วย ในการใช้บำบัดรักษาโรคต่างๆ ดังต่อไปนี้ คือ
ราก แก้ไข้รากสาด แก้ไข้ตัวร้อน แก้ขัดเบา
เหง้า ตำป่นทาท้องน้อยคนคลอดบุตร ทำให้รกลอก ภายหลังการ คลอดบุตร
ต้น ห้ามเลือด ทากันผมร่วงและทำให้ผมขึ้น แก้โรคไส้เลื่อน
ใบ รักษาโรคท้องเสีย แก้บิด ห้ามเลือด แก้ผื่นคันตามผิวหนัง
ยางจากใบ ห้ามเลือด สมานแผล
ดอก รักษาโรคเบาหวาน
ผล บำรุงกำลัง บำรุงเลือด เป็นยาระบาย รักษาอาการอาหารไม่ ย่อย ท้องขึ้น มีกรดมาก สมานแผล แก้โรคบิด รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แก้ท้องร่วง แก้ริดสีดวง
จะเห็นได้ว่ากล้วยมีสรรพคุณกว้างขวาง พบสารสำคัญหลายชนิดใน กล้วย เช่น benzopyrene, dopamine, epinephrine, tryptamine และ serotonin เป็นต้น โดยผลดิบมีสารแทนนินมาก จึงรักษาอาการท้องเสีย และบิด และมี ฤทธิ์ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร เชื่อว่าเกิดจากการกระตุ้นผนัง กระเพาะอาหารให้หลั่งสารเมือกออกมามากขึ้นและกระตุ้นให้เนื้อเยื่อของ กระเพาะเจริญเพื่อปิดแผลเมื่อเปรียบเทียบกับยารักษาโรคกระเพาะอื่นๆ ซึ่ง เป็นสารเคมีสังเคราะห์ เช่น aluminium hydroxide, cimetidine เป็นต้น สาร ประเภทนี้สามารถป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะได้ แต่ไม่สามารถสมานแผล ได้เหมือนกล้วย สารที่มีฤทธิ์ต้านแผลในกระเพาะของกล้วยคือ sitoindo side I ถึง IV โดยสาร sitoindoside IV หรือ sito sterol - 3 เป็นสารที่มีฤทธิ์มากที่สุด ไม่พบฤทธิ์ต้านการเกิดแผลของกระเพาะอาหารในกล้วยสุก แต่กล้วยสุกมี สรรพคุณเป็นยาระบายสำหรับผู้ที่เป็นริดสีดวงทวาร หรือผู้มีอุจจาระแข็ง
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่า กล้วยเป็นสมุนไพรที่น่าสนใจ หาได้ง่าย น่าจะได้พัฒนามาใช้เป็นยาต่อไป สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วท.) เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงทำการพัฒนา กล้วยให้ออกมาในรูปผลิตภัณฑ์ยาเม็ด ให้ชื่อว่า แอนคูซิลในการรักษา โรคกระเพาะ เพื่อเป็นการนำสมุนไพรมาใช้ประโยชน์และทดแทนการนำเข้า ยาจากต่างประเทศ
หรือจะเข้าไปดูอีกได้ที่ http://www.facebook.com/papelocho?fref=tsี่

ทายนิสัย : ทายนิสัยจากขนมสุดโปรด

                                

                                ทายนิสัย : ทายนิสัยจากขนมสุดโปรด

> ของหมักดอง คล่องแคล่ว ว่องไว แต่จะเบื่ออะไรง่าย ๆ อยู่สักหน่อย ทำอะไรเป็นพัก ๆ จะออกหัวหรือก้อยเอาไว้คอยลุ้นกันต่อไป ชอบที่จะเข้าสังคมพบปะผู้อื่น จะให้เค้าคนนี้อยู่คนเดียวไม่ได้แน่นอน ค่อนข้างที่จะเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง โกรธง่าย และก็โกรธนานด้วยสิ
ความรัก ค่อนข้างยุ่งเหยิงพัวพันอยู่ไม่น้อย สับรางกันแทบไม่ค่อยจะทัน ไม่ใช่ว่าเจ้าชู้นะ แต่แค่เสน่ห์แรงเท่านั้นเอง
> เวเฟอร์ เป็นคนที่มีมุมมองในแง่ดี ชอบที่จะคิดสร้างสรรค์มากกว่าจะทำลาย มีไอเดียใหม่อยู่เสมอ ๆ แถมยังเป็นคนที่มีอุดมการณNไม่ใช่เล่น ชอบที่จะคิดเรื่องของวันพรุ่งนี้ มากกว่าที่จะย้อนหลังไปเมื่อวันวาน บางครั้งเอาแต่ใจตัวเองนิดๆ แต่รักเพื่อนนะ แถมยังหนักแน่นไม่โลเลอีกต่างหาก
ความรัก ไม่ค่อยหวือหวาหรือโดดเด่นในสายตาของใครๆ เรียบๆ ง่ายๆ กินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวด้วยกันเหมือนคู่อื่น จริงจังและก็จริงใจสุด ๆ
> ขนมปังแท่ง เป็นคนที่ค่อนข้างที่จะหนักแน่นพอสมควร เถรตรง เป็นคน hiper กระตือรือร้นกับทุกเรื่อง รักความก้าวหน้า และคนกลุ่มนี้มักจะเป็นคนที่ทำอะไร แล้วมักจะทำได้ดี ชอบคิดและค้น สร้างสรรค์แต่สิ่งใหม่ ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแฟชั่นว่าตอนนี้อะไรที่กำลัง Hot Hit หรือมาแรง ตามติดๆ อยู่แล้ว
ความรัก ก็ค่อนข้างจะช่างเลือกนิด ๆ คนที่รักหรือคิดจะคบด้วย ต้องเป็นคนดีไม่ถึงกับว่าเลิศหรู แต่ต้องเชื่อใจ+เข้าใจ เพราะ ความรักเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สำหรับเค้า
> ขนมเยลลี่ รักสนุก เรื่องยุกยิกไม่ชอบเก็บไปคิดให้ปวดขมองหรอกนะ คนกลุ่มนี้เป็นคนติดเพื่อนมาก อ่อนไหวบ้างเป็นบางครั้ง และที่น่ารัก ก็แหมเป็นคนที่เคารพในการตัดสินใจของคนอื่นเสมอ ไม่ชอบอวดหรือโชว์ความดี ความเด่นของตัวเองให้ใคร ๆ รู้
ความรัก ถึงไม่ใช่คนโรแมนติก แต่ความจริงใจเกินร้อย
> ช็อคโกแลต ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง รักอิสระไม่ชอบให้ใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ หรือผูกมัดจนเกินความพอดี สบายๆ อะไรก็ได้ ไม่ค่อยถือสาหาความใคร และไม่ชอบยึดติดกับอะไรนานๆ ด้วยเหมือนกัน ไม่ชอบตั้งกฎเกณฑ์หรือให้ใครมาตั้งกฎให้กับตัวเอง หรือล้อมคอกความรู้สึกของใครไว้ และที่สำคัญ เค้าคนนั้นสามารถที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของทุกคนได้ แต่มีเหมือนกันที่บางครั้งก็แอบขี้น้อยใจกับเค้าเหมือนกัน
ความรัก ค่อนข้างจะแฟร์กับเรื่องแบบนี้พอสมควร ไม่ขี้หึงอะไรที่ไม่เข้าเรื่อง และกับคนที่ชอบถึงแม้จะเป็นคนรู้ใจกันไม่ได้ ก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกันได้นี่...
> ขนมปัง ตามแฟชั่นหรือเรียกแบบว่าเห่อก็ได้ ไม่ว่าอะไรที่ตอนนี้ in หรือ out ตามกระแสสุดตัว และที่สำคัญชอบอยู่รวมตัวเป็นกลุ่มเป็นก้อน ให้ตายสิก็เค้าไม่ชอบที่จะเป็นประเภทฉายเดี่ยว แบบขาดเพื่อนไม่ได้ จะทำอะไรก็ได้ขอมีเพื่อนพ่วงท้ายไว้ก่อน รักสนุก ชอบเฮฮาปาร์ตี้ ไปไหนไปด้วย แต่ช่วยออกสตางค์นะจ๊ะ เป็นนักฝันที่ดี บางครั้งดูจะขี้โวยวายไปสักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นพิษภัยให้ใครเดือดร้อน
ความรัก ไม่ค่อยจะซีเรียสตั้งกฎ ตายตัว ต้องเป็นยังงั้น หวีดกันขนาดนี้ เอาเป็นว่าปล่อยให้ความรักมันเป็นไปอย่างที่เคยเป็น ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ รักก็คือรัก ไม่ตามติดให้รำคาญใจ
> ถั่ว ไม่ค่อยจะจริงจังกับชีวิต ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เซอร์ๆ เฮฮ่าไปวันๆ ค่อนข้างจะรักอิสระ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร บางครั้งติดจะ โลดโผน มีความคิดแปลกกว่าชาวบ้าน ชอบที่จะทำอะไรแผลง ๆ เป็นแบบทำอะไรก็ได้เอามันไว้ก่อน แต่ก็อย่าพึ่งมองคนประเภทนี้เป็นคนไม่ดี เพราะเค้าค่อนข้างจะแฟร์ แถมยังเป็นคนตรง ไม่ชอบเสแสร้งแกล้งทำ เรื่องของ
ความรัก คนแบบนี้ความรักไม่ค่อยให้ความสำคัญอะไรมากมายนัก มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ไม่สำคัญ! เค้าไม่เคยวาดฝันว่าความรักต้องเพอร์เฟ็คและดีที่สุด
> หมากฝรั่ง เป็นคนค่อนข้างที่จะกล้าได้กล้าเสี่ยง ชอบความท้าทาย ลุยๆ และก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะมั่นใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญนะชอบทำอะไรแหวก แหกกฎอยู่เสมอ อะไรที่เหมือนกับคนอื่นๆ เค้าล่ะก้อ ไม่เอาด้วยหรอก ไม่เด็ดขาด เป็นตัว
ความรัก ค่อนข้างจะเปิดเผย รักชอบใครก็จะพูดหรือแสดงออกมาตรงกับเค้าคนนั้นไปเลย ไม่อ้อมค้อม บอกใบ้ให้เสีย เวลา
หรือจะเข้าไปดูอีกได้ที่   http://www.facebook.com/papelocho?fref=ts 

สัญลักษณ์ประจำชาติไทย


สัญลักษณ์ประจำชาติไทย 
 
พวกเราคงทราบกันดีแล้วว่า สัตว์ ดอกไม้ และสถาปัตยกรรม ที่เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ คือ "ช้างไทย" หรือ "Chang Thai" (Elephant) ดอกราชพฤกษ์ หรือ Ratchaphruek (Cassia fistula Linn) และ "ศาลาไทย" หรือ "Sala Thai" (Pavilion)
แต่บางท่านอาจยังมีไม่ทราบเหตุผลที่คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ลงมติเลือก ช้างไทย ดอกราชพฤกษ์ และศาลาไทย เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติ  
ช้างเผือกเป็นสัตว์ที่มีความผูกพันเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์และประเพณีไทยมายาวนาน อีกทั้งช้างไทยเป็นที่รู้จักแพร่หลายในสังคมโลก   ดังนั้น เพื่อกระตุ้นสังคมไทยให้ระลึกถึงช้าง สัตว์คู่บ้านคู่เมืองและคู่ป่า ทางราชการจึงกำหนดให้วันที่ 13 มีนาคม ของทุกปี เป็นวันช้างไทย  (ภาพช้างเผือกบนพื้นแดง เป็นรูปของธงชาติสยาม ปี พ.ศ.2398-2459)
ส่วนดอกราชพฤกษ์ หรือ คูน เป็นต้นไม้พื้นเมืองที่รู้จักแพร่หลาย มีในทุกภาค ใช้ประโยชน์ได้สารพัด เช่น ฝักเป็นสมุนไพรในตำรับแพทย์แผนโบราณ แก่นแข็งใช้ทำเสาเรือน  เป็นไม้ที่มีชื่อเป็นมงคลนามและอาถรรพ์ แก่นไม้เคยใช้ในพิธีสำคัญ ๆ มาก่อน เช่น พิธีลงหลักเมือง เป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนนานและทนทาน มีทรวดทรงและพุ่มงาน ดอกเหลืองอร่ามเต็มต้น เป็นสัญลักษณ์แห่งพุทธศาสนา
 สำหรับศาลาไทย เป็นสถาปัตยกรรมที่สะท้อนภูมิปัญญาช่างไทย มีความสง่างามที่โดดเด่นจากสถาปัตยกรรมชาติอื่น  จึงสมควรที่จะรักษาเอกลักษณ์และส่งเสริมให้ชาวต่างชาติได้มีโอกาสชื่นชมศาลาไทย
 
ข้อสังเกต การใช้สัญลักษณ์ประจำชาติไทย
ในส่วนที่มีบุคคลหรือบริษัทนำเครื่องหมายหรือภาพดังกล่าวมาจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าและนายได้รับจดทะเบียนไปให้แล้วนั้น กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศไปแล้วว่า ผู้ที่ได้จดทะเบียนไปแล้วจะยังคงได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย รวมถึงมีสิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้านั้นต่อไป แต่สำหรับผู้ที่เพิ่งยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่มีสัญลักษณ์ประจำชาติ นายทะเบียนจะปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนให้                                               
เหตุผลในการไม่รับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่เป็นสัญลักษณ์ ประจำชาติ กล่าวคือ   เพื่อให้เป็นสมบัติกลางของคนไทยทุกคน เพื่อให้ทุกคนมีสิทธิในการใช้เพื่อให้เป็นที่รู้จักกันในหมู่ประชาคมโลก จึงไม่ควรที่จะนำมาให้ใครคนใดคนหนึ่งจดทะเบียนเป็นเจ้าของสิทธิเพียงผู้เดียว   และทันทีที่รัฐบาลประกาศใช้สัญลักษณ์ประจำชาติ ทำให้คนไทยทุกคนทราบว่า ประเทศไทยมีสัญลักษณ์ประจำชาติที่อวดสู่สายตาชาวโลกได้แล้ว จึงถือเป็นเครื่องหมายการค้าที่มีชื่อเสียงแพร่หลายได้การปฏิเสธไม่รับจดทะเบียนจึงเป็นการอาศัยอำนาจตามมาตรา ๘(๑๐) แห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศให้ภาพหรือสัญลักษณ์ประจำชาติไทยทั้ง ๓ สิ่งนี้ เป็นเครื่องหมายต้องห้ามรับจดทะเบียนตามมาตรา ๘(๑๓) ตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องเครื่องหมายที่ต้องห้ามมิให้รับจดทะเบียน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๘ เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ แล้ว ซึ่งรวมถึงเครื่องหมายที่มีหรือประกอบด้วยลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือคล้ายกับภาพสัญลักษณ์ประจำชาติไทย  ก็ต้องห้ามมิให้รับจดทะเบียนด้วย
การห้ามมิให้รับจดทะเบียนนี้  เป็นการห้ามรับจดทะเบียนทางทะเบียน เพื่อมิให้ผู้ใดผู้หนึ่งอ้างความเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้านั้นแต่ผู้เดียว แต่มิได้ห้ามคนไทยที่จะใช้ภาพหรือสัญลักษณ์เป็นเครื่องหมายการค้ากับสินค้าของตน แต่การใช้ก็ควรที่จะอยู่ในลักษณะที่ไม่เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยาม และจะต้องไม่เป็นการใช้สิทธิที่ไปกระทบถึงสิทธิของผู้อื่นด้วย ใช้อย่างไรเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามนั้น เป็นข้อเท็จจริงต้องพิจารณาเป็นกรณี 
แต่การนำสัญลักษณ์ประจำชาติมาใช้เป็นเครื่องหมายการค้า แม้จะใช้โดยถือว่าเป็นสมบัติโดยรวมของคนไทย ซึ่งคนไทยทุกคนมีสิทธิในการใช้สัญลักษณ์นี้ก็ตาม แต่ต้องระวังด้วยว่า หากสัญลักษณ์ดังกล่าวมีบุคคลหนึ่งบุคคลใดได้รับการจดทะเบียนเป็นเครื่อองหมายการค้าไว้ก่อนแล้วสำหรับสินค้าอย่างเดียวกัน หรือสินค้าที่มีลักษณะเดียวกัน อาจไปกระทบถึงสิทธิความเป็นเจ้ าของการค้าที่ได้รับจดทะเบียนของผู้อื่นได้  ตามหลักของกฎหมายเครื่องหมายการค้า
อนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๓ และมาตรา ๒๗๔ ได้บัญญัติให้บุคคลต้องรับโทษทางอาญา หากมีกรณีปลอมหรือเลียนเครื่องหมายการค้าของผู้อื่น ซึ่งได้จดทะเบียนแล้วนอกราชอาณาจักร ดังนั้น การนำสัญลักษณ์ประจำชาติไทยไปใช้เป็นเครื่องหมายการค้า แม้จะใช้ในประเทศไทยก็ตาม ควรสำรวจตลาดสินค้าในขณะนั้นด้วยว่ามีใครสั่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไทย แต่ได้จดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าไว้ในต่างประเทศ แล้วนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่
ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าฯ มาตรา ๘(๖) ได้บัญญัติห้ามนายทะเบียนรับจดทะเบียน หากว่าเครื่องหมายการค้าที่จะนำมาขอจดทะเบียนนั้นเป็นธงชาติหรือเครื่องหมายประจำชาติของรัฐต่างประเทศ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ซี่งมีอำนาจหน้าที่ของรัฐต่างประเทศนั้น จะเห็นได้ว่าในกฎหมายไทยยังไม่ห้ามเด็ดขาด สามารถจะรับจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าประจำชาติของรัฐต่างประเทศได้  หากมีการอนุญาตให้ผู้ขอจดทะเบียนนำไปจดทะเบียนในประเทศไทย โดยได้รับอนุญาตให้ผู้ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ของรัฐต่างประเทศนั้น
กฎหมายในลักษณะเช่นนี้ ในต่างประเทศก็บัญญัติไว้ทำนองเดียวกัน ดังนั้น ประเทศไทยจะห้ามคนไทยนำสัญลักษณ์ประจำชาติไทยไปจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าในต่างประเทศหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าติดตาม     แต่อย่างไรก็ตาม การแก้ไขกฎหมายเครื่องหมายการค้าครั้งต่อไป ทางราชการได้เสนอแก้ไขกฎหมายให้เครื่องหมายประจำชาติไทยเป็นเครื่องหมายต้องห้ามรับจดทะเบียน ซึ่งห้ามมีการประกาศใช้ เครื่องหมายประจำชาติไทยจะเป็นเครื่องหมายการค้าต้องห้ามรับจดทะเบียนตามกฎหมาย มิใช่ตามประกาศของรัฐมนตรี โอกาสที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการรับการจดทะเบียนไปก่อนหน้า อาจถูกเพิกถอนการจดทะเบียนได้ต่อไป


สามารถเข้าไปดูอีกได้ที่ http://www.facebook.com/papelocho?fref=ts

วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ประวัติส่วนตัว


ประวัติส่วนตัว



ชื่อนางสาวสมร  เลื่อนลั่น   เลขที่ 23
เกิดวันที่ 7 กุมพาพันธ์ พ.ศ 2538
กำลังศึกษาอยู่โรงเรียนวิเชียรมาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
สีที่ชอบ สีฟ้า อาหารที่ชอบ ต้มยำกุ้ง
อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 4/1 หมู่ 6 ตำบลคลองลุ อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง



ประวัติส่วนตัว



ชื่อนางเสาวณีย์ รักเหมือน  เลขที่ 46
เกิดวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ 2538
กำลังศึกษาอยู่โรงเรียนวิเชียรมาตุ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
สีที่ชอบ สีชมพู อาหารที่ชอบ ส้มตำ
อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 177หมู่ 7 ตำบลวังมะปราง อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง


เอกลักษณ์ไทย





เอกลักษณ์ไทย


เอกลักษณ์ไทย คือ สิ่งที่บ่งบอกความเป็นชาติไทยได้อย่างชัดเจน ได้แก่ 

  1. ภาษาไทย คือ ภาษาพูดที่ใช้สื่อสารกันได้อย่างเข้าใจ ถึงแม้จะมีสำเนียงที่แตกต่างกันไปบ้างในแต่ละพื้นที่ รวมถึงการใช้ศัพท์กับบุคคลในระดับต่าง ๆ และอักษรไทยที่ใช้ในภาษาเขียนโดยทั่วไป



  2. การแต่งกาย ถึงแม้ว่าในปัจจุบันการแต่งกายของชาวไทยจะเป็นสากลมากขึ้น แต่ก็ยังคงเครื่องแต่งกาย ของไทยไว้ในโอกาสสำคัญต่าง ๆ เช่น ในงานพระราชพิธี งานที่เป็นพิธีการ หรือในโอกาสพบปะ สังสรรค์ระหว่างผู้นำ พิธีแต่งงาน เทศกาลและงานประเพณีที่จัดขึ้น หรือในกิจกรรมต่าง ๆ ที่ต้องการ แสดงให้เห็นถึงความเป็นไทยอย่างชัดเจน ในบางหน่วยงานของราชการ มีการรณรงค์ให้แต่งกายในรูป แบบไทย ๆ ด้วย ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี



  3. การแสดงความเคารพด้วยการไหว้และกราบ ซึ่งแบ่งแยกออกได้อย่างชัดเจน เช่น กราบพระพุทธรูป กราบพระสงฆ์ กราบไหว้บุคคลในฐานะ หรือวัยต่าง ๆ ตลอดจนการวางตนด้วยความสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน การแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ ความมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน รวมไปถึงความเกรงใจ



  4. สถาปัตยกรรม เห็นได้จากชิ้นงานที่ปรากฏในศาสนสถาน โบสถ์วิหาร ปราสาทราชวัง และอาคารบ้าน ทรงไทย



  5. ศิลปวัฒนธรรมและประเพณี ประเทศไทยมีการติดต่อกับหลายเชื้อชาติ ทำให้มีการรับวัฒนธรรมของชาติ ต่าง ๆ เข้ามา แต่คนไทยสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม และปฏิบัติสืบต่อกันมาจน กลายเป็น ส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของไทย



  6. ดนตรีไทย กีฬาไทย และการละเล่นพื้นเมืองต่างๆ

สิ่งที่กล่าวมานั้น เป็นเพียงบางส่วนที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทย ถึงแม้ว่าจะมีบางอย่างที่มองไม่เห็น เด่นชัดหรือเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้วก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้องคงอยู่ในใจของคนไทยตลอดไป ก็คือ ศักดิ์ศรีของคนไทย

ประวัติจังหวัดตรัง


ประวัติจังหวัดตรัง


           จังหวัดตรัง เป็นจังหวัดหัวเมืองชายทะเลฝั่งตะวันตก ซึ่งตั้งขึ้นใหม่ในสมัยรัตนโกสินทร์ จึงไม่มีประวัติในสมัยโบราณก่อนหน้านั้น และเข้าใจว่าในแผ่นดินพระบรมไตรโลกนารถครั้นกรุงศรีอยุธยานั้น เมืองตรังยังไม่มี เพราะพระธรรมนูญกล่าวถึงหัวเมืองฝ่ายใต้มีเพียง นครศรีธรรมราช พัทลุง ไชยา เพชรบุรี กุย ปราณ ครองวาฬ บางสะพาน ตะกั่วทุ่ง ตะกั่วป่า ตะนาวศี ทะวาย มะริด และสามโคก ดังนั้นเมืองตรังแต่เดิมมา น่าจะเป็นเพียงทางผ่านไปยังเมืองนครศรีธรรมราช และเมืองพัทลุงเท่านั้น ต่อมาเมื่อผู้คนตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนมากขึ้นจึงเกิดเมืองในตอนหลัง
          เท่าที่พบหลักฐานความเป็นมาของจังหวัดตรัง เริ่มแรกได้จากศิลาจารึกที่วัดเสมาเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งได้จารึกโดยพระเจ้าจันทรภาณุ หรือพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชที่ ๕ ในปี พ.ศ. ๑๗๗๓ ซึ่งเป็นสมัยที่เมืองนครศรีธรรมราชเจริญรุ่งเรืองมาก ได้จารึกว่าอาณาจักรนครศรีธรรมราชมีหัวเมืองรายล้อมอยู่ถึง ๑๒ หัวเมือง ได้กำหนดใช้รูปสัตว์ตามปีนักษัตรเป็นตราประจำเมือง เรียกว่าการปกครองแบบ ๑๒ นักษัตร โดยเมืองตรังใช้ตราม้า (ปีมะเมีย) เป็นตราประจำเมือง
          แสดงว่าในปี พ.ศ.๑๗๗๓ มีเมืองตรังแล้วแต่ไม่ทราบว่าตั้งเมืองอยู่ที่ใด ในพงศาวดารเมืองพัทลุงกล่าว ว่าเมื่อปี พ.ศ.๑๔๙๓ พระยากุมารกับนางเลือดขาวไปลังกา ทั้งขาไปและขามาได้แวะที่เมืองตรัง เพราะเป็น เมืองท่า นางเลือดขาวยังได้สร้างพระพุทธรูปและวัดพระพุทธสิหิงค์ไว้ที่เมืองตรัง
     ในสมัยกรุงศรีอยุธยาและกรุงธนบุรี เมืองตรังมีชื่อเป็นหัวเมืองทขึ้นต่อเมืองนครศรีธรรมราช ครั้น ถึงปี พ.ศ.๒๓๔๗ รัชกาลที่ ๑ แห่กรุงรัตนโกสินทร์โปรดฯ ให้ยกเมืองตรังขึ้นตรงกับกรุงเทพฯ ชั่วคราเนื่องจากผู้รักษาเมืองตรังเป็นอริกับเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช หลัจากนั้นให้ไปขึ้นกับเมืองสงขลาระยะ หนึ่ง จนถึง พ.ศ.๒๓๕๔ จึงกลับไปขึ้นกับเมืองนครศรีธรรมราชดังเดิม และได้มีการตั้งเมืองตรังขึ้นเป็ครั้งแรกโดยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า นภาลัย ทรงแต่งตั้พระอุไภยธานีเป็นเจ้าเมืองตรังคนแรก และได้มีการสร้างหลักเมืองตรังไว้ที่ ควนธานี
            พ.ศ.๒๓๘๑ ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๔ เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้น ทางเมืองตรังและหัวเมืองปักษ์ใต้หลายเมือง ต่อมาจึงได้โอนเมืองตรังมาขึ้นต่อกรุงเทพฯ อยู่ภายใต้การดูแลของข้าหลวงใหญ่หัวเมืองชายทะเลฝั่งตะวันตก ซึ่งตั้งกองบัญชาการอยู่ที่เมืองตรังจนถึง พ.ศ.๒๔๒๘ เมืองตรังจึงได้กลับไปอยู่ภายใต้การดูแลของข้าหลวงใหญ่ซึ่งตั้งกองบัญชาการอยู่ที่ภูเก็ต และเมื่อมีการปฏิรูปการปกครองเป็นแบบมณฑลเทศาภิบาลเมืองตรังจึงถูกรวม เข้าเป็นหัวเมืองหนึ่งของมณฑลภูเก็ต
          ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสหัว เมืองปักษ์ใต้ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๓ ทรงเห็นเมืองตรังมีสภาพทรุดโทรม จึงทรงโปรดฯ ให้พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) มาดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองตรัง และสร้างความเจริญให้แก่ตรังอย่างมากมาย โดยย้ายเมืองตรังมาตั้งที่ อำเภอกันตัง ปากแม่น้ำตรัง โดยรวมเอาเมืองตรังและปะเหลียนเข้าด้วยกัน และพัฒนาเป็นเมืองท่าการค้าและยังได้ส่งเสริมให้มีการปลูกยางพาราที่จังหวัดตรังเป็นแห่งแรก 
         ต่อมาพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าที่ตั้งตัวเมืองตรังเดิม คือ เมืองกันตังไม่ปลอดภัยจากศัตรู ไม่เป็นศูนย์กลางของจังหวัด ทั้งยังเป็นที่ลุ่มมาก น้ำทะเลท่วมถึง จะขยายตัวเมืองได้ยาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายเมืองไปตั้งที่ตำบลทับเที่ยง อำเภอบางรัก ซึ่งเป็นที่ตั้งของอำเภอเมืองตรังมาจนทุกวันนี้ และเมื่อมีการจัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๔๗๖ เมืองตรังจึงมีฐานะเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยครับ





ขนมทายนิสัย


ขนมทายนิสัย

> ของหมักดอง คล่องแคล่ว ว่องไว แต่จะเบื่ออะไรง่าย ๆ อยู่สัก
หน่อย ทำอะไรเป็นพัก ๆ จะออกหัวหรือก้อยเอาไว้คอยลุ้นกันต่อไป ชอบที่จะเข้าสังคมพบปะผู้อื่น จะให้เค้าคนนี้อยู่คนเดียวไม่ได้แน่นอน ค่อนข้างที่จะเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง โกรธง่าย และก็โกรธนานด้วยสิ
ความรัก ค่อนข้างยุ่งเหยิงพัวพันอยู่ไม่น้อย สับรางกันแทบไม่ค่อยจะทัน ไม่ใช่ว่าเจ้าชู้นะ แต่แค่เสน่ห์แรงเท่านั้นเอง
> เวเฟอร์ เป็นคนที่มีมุมมองในแง่ดี ชอบที่จะคิดสร้างสรรค์มากกว่าจะทำลาย มีไอเดียใหม่อยู่เสมอ ๆ แถมยังเป็นคนที่มีอุดมการณNไม่ใช่เล่น ชอบที่จะคิดเรื่องของวันพรุ่งนี้ มากกว่าที่จะย้อนหลังไปเมื่อวันวาน บางครั้งเอาแต่ใจตัวเองนิดๆ แต่รักเพื่อนนะ แถมยังหนักแน่นไม่โลเลอีกต่างหาก
ความรัก ไม่ค่อยหวือหวาหรือโดดเด่นในสายตาของใครๆ เรียบๆ ง่ายๆ กินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวด้วยกันเหมือนคู่อื่น จริงจังและก็จริงใจสุด ๆ
> ขนมปังแท่ง เป็นคนที่ค่อนข้างที่จะหนักแน่นพอสมควร เถรตรง เป็นคน hiper กระตือรือร้นกับทุกเรื่อง รักความก้าวหน้า และคนกลุ่มนี้มักจะเป็นคนที่ทำอะไร แล้วมักจะทำได้ดี ชอบคิดและค้น สร้างสรรค์แต่สิ่งใหม่ ๆ ให้กับตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแฟชั่นว่าตอนนี้อะไรที่กำลัง Hot Hit หรือมาแรง ตามติดๆ อยู่แล้ว


> ขนมเยลลี่ รักสนุก เรื่องยุกยิกไม่ชอบเก็บไปคิดให้ปวดขมองหรอกนะ คนกลุ่มนี้เป็นคนติดเพื่อนมาก อ่อนไหวบ้างเป็นบางครั้ง และที่น่ารัก ก็แหมเป็นคนที่เคารพในการตัดสินใจของคนอื่นเสมอ ไม่ชอบอวดหรือโชว์ความดี ความเด่นของตัวเองให้ใคร ๆ รู้
ความรัก ถึงไม่ใช่คนโรแมนติก แต่ความจริงใจเกินร้อย
> ช็อคโกแลต ค่อนข้างเป็นตัวของตัวเอง รักอิสระไม่ชอบให้ใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ หรือผูกมัดจนเกินความพอดี สบายๆ อะไรก็ได้ ไม่ค่อยถือสาหาความใคร และไม่ชอบยึดติดกับอะไรนานๆ ด้วยเหมือนกัน ไม่ชอบตั้งกฎเกณฑ์หรือให้ใครมาตั้งกฎให้กับตัวเอง หรือล้อมคอกความรู้สึกของใครไว้ และที่สำคัญ เค้าคนนั้นสามารถที่จะเป็นเพื่อนที่ดีของทุกคนได้ แต่มีเหมือนกันที่บางครั้งก็แอบขี้น้อยใจกับเค้าเหมือนกัน
ความรัก ค่อนข้างจะแฟร์กับเรื่องแบบนี้พอสมควร ไม่ขี้หึงอะไรที่ไม่เข้าเรื่อง และกับคนที่ชอบถึงแม้จะเป็นคนรู้ใจกันไม่ได้ ก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกันได้นี่...
> ขนมปัง ตามแฟชั่นหรือเรียกแบบว่าเห่อก็ได้ ไม่ว่าอะไรที่ตอนนี้ in หรือ out ตามกระแสสุดตัว และที่สำคัญชอบอยู่รวมตัวเป็นกลุ่มเป็นก้อน ให้ตายสิก็เค้าไม่ชอบที่จะเป็นประเภทฉายเดี่ยว แบบขาดเพื่อนไม่ได้ จะทำอะไรก็ได้ขอมีเพื่อนพ่วงท้ายไว้ก่อน รักสนุก ชอบเฮฮาปาร์ตี้ ไปไหนไปด้วย แต่ช่วยออกสตางค์นะจ๊ะ เป็นนักฝันที่ดี บางครั้งดูจะขี้โวยวายไปสักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นพิษภัยให้ใครเดือดร้อน
ความรัก ไม่ค่อยจะซีเรียสตั้งกฎ ตายตัว ต้องเป็นยังงั้น หวีดกันขนาดนี้ เอาเป็นว่าปล่อยให้ความรักมันเป็นไปอย่างที่เคยเป็น ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ รักก็คือรัก ไม่ตามติดให้รำคาญใจ
> ถั่ว ไม่ค่อยจะจริงจังกับชีวิต ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ เซอร์ๆ เฮฮ่าไปวันๆ ค่อนข้างจะรักอิสระ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร บางครั้งติดจะ โลดโผน มีความคิดแปลกกว่าชาวบ้าน ชอบที่จะทำอะไรแผลง ๆ เป็นแบบทำอะไรก็ได้เอามันไว้ก่อน แต่ก็อย่าพึ่งมองคนประเภทนี้เป็นคนไม่ดี เพราะเค้าค่อนข้างจะแฟร์ แถมยังเป็นคนตรง ไม่ชอบเสแสร้งแกล้งทำ เรื่องของ
ความรัก คนแบบนี้ความรักไม่ค่อยให้ความสำคัญอะไรมากมายนัก มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ไม่สำคัญ! เค้าไม่เคยวาดฝันว่าความรักต้องเพอร์เฟ็คและดีที่สุด
> หมากฝรั่ง เป็นคนค่อนข้างที่จะกล้าได้กล้าเสี่ยง ชอบความท้าทาย ลุยๆ และก็เป็นคนที่ค่อนข้างจะมั่นใจตัวเองอยู่เหมือนกัน ที่สำคัญนะชอบทำอะไรแหวก แหกกฎอยู่เสมอ อะไรที่เหมือนกับคนอื่นๆ เค้าล่ะก้อ ไม่เอาด้วยหรอก ไม่เด็ดขาด เป็นตัว
ความรัก ค่อนข้างจะเปิดเผย รักชอบใครก็จะพูดหรือแสดงออกมาตรงกับเค้าคนนั้นไปเลย ไม่อ้อมค้อม บอกใบ้ให้เสีย เวลา










ดอกไม้ประจำวันเกิด


ดอกไม้ประจำวันเกิด



สำหรับคนที่เกิดวัน…อาทิตย์          ต้นไม้ประจำวันเกิด เป็นต้นพวงแสด ต้นพุทธรักษา ต้นธรรมรักษา และต้นเยอร์บีร่าที่มีดอกสีส้ม
          ดอกไม้ประจำวันเกิด เป็นดอกกุหลาบสีส้ม จะถูกโฉลกกับวันอาทิตย์ที่มีนิสัยทะเยอทะยานและกระตือรือล้น และยังรวมไปถึงดอกทานตะวัน อันเป็นสัญลักษณ์คู่กับพระอาทิตย์
          ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันอาทิตย์ คือ การมีความฝันอันยิ่งใหญ่ เชื่อมั่น หัวสูง ถือตัว และหยิ่งในศักดิ์ศรีด้วย


สำหรับคนที่เกิดวัน…จันทร์           ต้นไม้ประจำวันเกิด คือ ต้นมะลิ ต้นแก้ว ต้นพุด ต้นจำปี ยิ่งถ้าปลูกแล้วออกดอกหอมเธอจะยิ่ง โชคดี
          ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกมะลิขาวสะอาด ดอกกุหลาบขาว
          ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันจันทร์ เป็นคนที่มีความนุ่มนวลอ่อนโยน เรียบร้อย มี ความรักที่อ่อนโยนและไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน เพราะคนวันจันทร์มักอ่อนไหวง่าย โรแมนติก และช่างฝัน


สำหรับคนที่เกิดวัน…อังคาร           ต้นไม้ประจำวันเกิด คือ ต้นชัยพฤกษ์ ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ต้นยี่โถออกดอกสีชมพู ต้นเข็มออกดอกสีชมพู ถ้าต้นไม้ของคนที่ปลูกไว้เกิดออกดอกมาก ๆ บอกได้ว่าเจ้าของกำลังมีความสุข
          ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกกล้วยไม้ โดยเฉพาะที่ออกดอกสีชมพู
          ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันอังคาร หมายถึง คนที่มีความรักที่ร้อนลุ่ม หวือหวา วูบวาบ


สำหรับคนที่เกิดวัน…พุธ
          ต้นไม้ประจำวันเกิด ต้นไม้ประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันพุธนั้นมีความพิเศษกว่าคนอื่นตรงที่เป็นต้นไม้ใบเขียว โดยเฉพาะต้นกระดังงา ต้นสนฉัตร ดังนั้นคนที่เกิดวันนี้ควรปลูกต้นไม้เยอะ ๆ จึงจะโชคดี ต้นไม้เหล่านั้นจะช่วยปกป้องคุ้มครองเธอได้
          ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกบัว
          ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันพุธ หมายถึง จิตใจอันสงบ เพราะคนที่เกิดวันพุธจะเป็นนักการทูตและรักสันติภาพ ซึ่งคนที่เกิดวันนี้มักจะเป็นนักคำนวณ(เงิน) สำหรับสีเหลืองอร่ามราวกับทองของดอกไม้ชนิดนี้ (บัว) หมายถึง รักของคนที่เกิดวันพุธต้องมาพร้อมเงิน


สำหรับคนที่เกิดวัน…พฤหัสบดี
          ต้นไม้ประจำวันเกิด คือ ต้นโสน ต้นราชพฤกษ์ และต้นบานบุรี หากมีต้นไม้เหล่านี้อยู่ในบ้านจะช่วยคุ้มครองดูแล
          ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกกุหลาบสีเหลือง หมายถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความรัก รักซ้อนซ่อนใจ เพราะคนที่เกิดวันนี้เป็นคนรักง่ายหน่ายเร็ว เจ้าชู้เล็ก ๆ ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู หมายถึงรักที่อ่อนโยนและอ่อนหวาน
          ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันพฤหัสบดี คือ การมีความฝันอันยิ่งใหญ่ เชื่อมั่น หัวสูง ถือตัว และหยิ่งในศักดิ์ศรีด้วย


สำหรับคนที่เกิดวัน…ศุกร์
          ต้นไม้ประจำวันเกิด คือ พยับหมอก ต้นแส ต้นอัญชัน
          ดอกไม้ประจำวันเกิด คือ ดอกกุหลาบทุกสี
          ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันศุกร์ เพราะคนที่เกิดวันนี้เป็นนักรักผู้ยิ่งใหญ่ มีเสน่ห์เหลือล้น หรือจะเป็นดอกไม้เจ้าเสน่ห์ที่มีความหมายหวานแหววแบบดอกไวโอเลต คนที่เกิดวันศุกร์บางอารมณ์ ก็เป็นคนโลเล จึงได้ดอกลาเวนเดอร์ที่มีความหมายถึงรักที่สับสน ไม่แน่นอน ไปครองอีกดอกหนึ่ง


สำหรับคนที่เกิดวัน…เสาร์
          ต้นไม้ประจำวันเกิด คือ ต้นกัลปังหา ต้นพวงคราม ต้นอินทนิล
          ดอกไม้ประจำวันเกิด เป็นดอกลิลลี่ หมายถึงรักครั้งแรก รักที่บริสุทธิ์
          ความหมายของดอกไม้และคนที่เกิดวันเสาร์ คือ เป็นคนจริงจัง รักคนยาก และเป็นคนขี้เหงาอีกต่างหาก

          คงจะได้ทราบกันแล้วนะครับ ใครเกิดวันไหนก็ดูกันเอาเองก็แล้วกัน แต่อย่าไปยึดติดกับความหมายมากนะครับ เพราะการที่เราได้ปลูกต้นไม้ เอาไว้ในบ้านหรือที่ไหนก็แล้วแต่ มันทำให้เรารู้สึกสดชื่น จิตใจอ่อนโยน คนที่เครียดมาจากการทำงาน แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านมาดูแลต้นไม้ รดน้ำต้นไม้ ก็ช่วยทำให้ผ่อนคลายได้มากยิ่งขึ้น อยู่กับต้นไม้ ดอกไม้แล้วมีความสุข แม้แต่ในงานพิธีการต่าง ๆ ก็จะมีต้นไม้ ดอกไม้ ประดับในงาน เพื่อให้ดูร่มรื่น สดชื่น สบายตา คงจะเห็นถึงความสดใสและสวยงามของต้นไม้แล้วใช่ไหมครับ ผมคิดว่ามาปลูกต้นไม้กันเถอะครับ


สาระดี ๆ มีอีกนะ >> http://khunkrookrub.com/